วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

หลังคาบ้านมีกี่แบบ แบบใดที่นิยมใช้มากที่สุด เพราะเหตุใด เรามีคำตอบให้

รูปทรงหลังคานับถึงปัจจุบันมีอยู่ 7 แบบ คือ

1.ซ่อมหลังคา SLAB หรือหลังคาแบน สามารถใช้ประ โยชน์บนหลังคาได้ แต่ต้องระวังการรั่วซึม ใช้เป็นที่พักผ่อน ตากผ้า ใช้กับตึกอาคารทันสมัยทั่วไปในปัจจุบัน มองไม่เห็นตัวหลังคา ทำให้ออกแบบได้หลากหลาย หลังคาแบนซึ่งทำด้วยคอนกรีตจะสะสมความร้อนไว้มากกว่าหลังคาที่มุงด้วย กระเบื้องดินเผาและกระเบื้องคอนกรีต ทำให้เกิดการคายความร้อนออกมาในช่วงที่อากาศเย็นลง คือ เวลากลางคืน ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกร้อนอบอ้าวเมื่อกลับมาบ้านในเวลาเย็น การที่หลังคาแบนมีความลาดเอียงน้อย น้ำฝนจึงมักขังอยู่บนหลังคาได้ง่าย ทำให้เกิดการรั่วซึมอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าก่อสร้างได้ถูกวิธีก็ไม่มีปัญหาค่ะ

2. หลังคาเพิงหมาแหงน คือ หลังคาที่เอียงไปด้าน เดียว ราคาถูก และก่อสร้างง่าย

3. หลังคาทรงมนิลา หรือหลังคาหน้าจั่ว คือ หลังคา ที่มีสันตรงกลาง และลาดลงทั้ง 2 ข้าง เป็นรูปทรงที่สืบทอดกันมา ตั้งแต่สมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เหมาะกับสภาพภูมิอากาศเขตศูนย์สูตรอย่างบ้านเรา เนื่องจากมีฝนตกชุกหลังคาจั่วสามารถระบายน้ำฝนออกไปได้เร็ว และป้องกันแดดได้ดีเนื่องจากชายคายื่นยาวสองด้านส่วนด้านสกัดหรือด้านแคบ แม้ยื่นชายคาไม่ได้มากก็ไม่นิยมทำหน้าต่างด้านนี้

4. หลังคาทรงปั้นหยา ได้แพร่เข้ามาสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งยุคล่าอาณานิคมของประเทศมหาอำนาจในยุโรป เป็นหลังคาที่กันแดดกันฝน ได้ทุกด้าน แต่ราคาแพงกว่าแบบจั่ว ได้กลายเป็นหลังคารูปทรงหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจวบจนปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะหลังคาทรงนี้สามารถยื่นชายคาเพื่อบังแดดและฝนได้ทั้งสี่ด้าน การระบายน้ำฝนและการป้องกันการรั่วซึม ค่อนข้างจะเสียเปรียบหลังคาจั่ว เนื่องจากมีรอยต่อมากกว่า

แต่ถ้ามุงได้ถูกวิธีและดูแลรักษาตามสภาพก็จะไม่รั่วซึมค่ะ

5. หลังคาปีกผีเสื้อ ปัจจุบันไม่นิยมกันแล้ว เพราะ จะเอียงกลับเข้ามาตรงกลาง ซึ่งเป็นรางน้ำทำให้รั่วง่าย

6.หลังคาโค้ง นิยมในบ้านสไตล์โมเดิร์น หรือโรงงานค่ะ หลังคาทำด้วย Metal sheet และอลูมิเนียมขึ้นรูปค่ะ

7.หลังคาทรงอิสระอื่นๆ เช่นทรงโค้งเป็นลอนไปมา ทรงไร้ทิศทาง ใช้กับอาคารที่ต้องการความแปลกใหม่ วัสดุที่ใช้มุงเป็นพวกเหล็กขึ้นรูปและอลูมิเนียมขึ้นรูปค่ะ

**แบบหลังคาบ้านที่นิยมมากที่สุดในเมืองไทย นิยมทั้งแบบจั่วและแบบปั้นหยาค่ะ เพราะทั้งสองแบบกันแดดกันฝนได้ดี และทำง่ายไม่ยุ่งยาก วัสดุไม่แพงมาก ราคาเหมาะสมค่ะ

กระเบื้องมุงหลังคาแต่ละชนิด จะมีความลาดเอียงใน การมุงไม่เท่ากัน ตัวอย่างเช่น

กระเบื้องโมเนียจะต้องมุงให้ มีความลาดเอียงไม่น้อยกว่า 17 องศา

กระเบื้องลอนคู่และลูกฟูก สามารถมุงหลังคาบ้านให้ มีความลาดเอียงไม่น้อยกว่าประมาณ 10 - 12 องศา

Metal sheet & Aluminium sheet สามารถมุงได้น้อยกว่า 10 - 12 องศา แล้วแต่วิธีการออกแบบ

เพราะฉะนั้นเวลาเปลี่ยนวัสดุมุงหลังคา ควรตรวจดู ความลาดเอียงของหลังคาให้ถูกต้องด้วย มิฉะนั้นจะทำให้หลัง คารั่วได้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น